♣ การทดสอบไดโอดด้วยมัลติมิเตอร์แบบแอนะลอก ทำได้โดยตั้งย่านวัดความต้านทานในย่าน R x 1KW เพื่อวัดความต้านทานด้านไบแอสตรง โดยต่อขั้วบวกของมัลติมิเตอร์มิเตอร์เข้ากับแอโนด และต่อขั้วลบของมัลติมิเตอร์เข้ากับแคโทด ดังรูปที่ 1 จะเห็นว่าเข็มของมัลติมิเตอร์มิเตอร์ชี้ไปในย่านความต้านทานต่ำกว่า 100W แสดงว่าไดโอดได้รับไบแอสตรง และให้ปรับย่านวัดไปย่าน R x 1KW เพื่อวัดความต้านทานไบแอสกลับของไดโอด โดยต่อขั้วมัลติมิเตอร์กลับจากเดิม คือ ต่อขั้วบวกของมัลติมิเตอร์เข้ากับแคโทดและต่อขั้วลบของมัลติมิเตอ์เข้ากับแอโนดเข็มมัลติ
มิเตอร์จะชี้ที่ค่าความต้านทานสูงมากหรือค่าอนันต์ (Infinity,¥) ดังรูปที่ 1
♂ การทดสอบไดโอดด้วยมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล ให้ตั้งย่านวัดไดโอด โดยวัดขั้วทั้งสองของไดโอดด้วยไบแอสตรง คือ ให้ขั้วลบของมิเตอร์ต่อกับแคโทดและขั้วบวกของมิเตอร์ต่อกับแอโนด มิเตอร์จะแสดงค่าแรงดันตกคร่อมรอยต่อของไดโอด
การวัดตรวจสอบไดโอด จะมีการพิจารณากันอยู่ 3 ลักษณะ คือ
1. ไดโอดขาด หมายถึง รอยต่อระหว่าง สาร พี-เอ็น เปิดออกจากกัน ทำให้ไดโอดไม่สามารถ นำกระแสได้ ทั้งกรณีไบแอสตรง และไบแอสกลับ
2. ไดโอดลัดวงจร หมายถึง รอยต่อระหว่างสาร พี-เอ็น เกิดการพังทลายเข้าหากัน ไดโอดจะ นำกระแสทั้งกรณีไบแอสตรงและไบแอสกลับ
3. ไดโอดรั่วไหล หมายถึง เงื่อนไขของการไบแอสกลับโดยใช้ค่าแรงดันระดับหนึ่งที่ยังไม่ถึงค่า แรงดันย้อนกลับค่ายอด เช่น ใช้แรงดันจากโอห์มมิเตอร์ แต่เกิดมีค่าความต้านทานที่ต่ำกว่าปกติเมื่อเทียบ ไดโอดที่ไม่มีการรั่วไหลของกระแส สภาพปกติของไดโอดชนิดเยอรมันเนียมเมื่อถูกไบแอสกลับจะมีค่า ความต้านทานประมาณ 100 KW - 200 KW ขึ้นไป ไดโอดชนิดซิลิคอนเมื่อถูกไบแอสกลับจะมีค่าความต้านเป็นอนันต์
♀ การตรวจเช็คไดโอด 1. ต่อสายวัดสีแดงเข้าที่จุดต่อ ""V. .FREQ"" และสายสีดำต่อเข้าที่จุด ""COM"" 2. บิดปุ่มเลือกไปที่ สัญลักษณ์ของไดโอด 3. ต่อสายสีแดงที่ขั้วของอาโนด และสายสีดำเข้าที่ขั้วคาโธดเมื่อขณะทำการวัดไดโอดปกติเครื่องจะ แสดงผล LCD ปรากฎเป็นค่าแรงดันไฟไบอัสตรงของไดโอด แต่ถ้าไดโอดช๊อตเครื่องจะแสดงผล LCD มีค่าเป็นศูนย์และถ้าไดโอดขาด เครื่องจะแสดงผล LCD มีค่า [1]หรือOverrange State(1)
วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น